ไส้ติ่งอักเสบ โรคปวดท้องเฉียบพลันที่พบบ่อย สังเกตได้จากอาการปวดท้อง

โรคไส้ติ่งอักเสบ เป็นโรคที่ต้องการการรักษาทางศัลยกรรมเร่งด่วนที่พบได้บ่อยที่สุด ทั้งในผู้ใหญ่และในผู้ป่วยวัยเด็ก เป็นโรคที่มีปัญหาค่อนข้างมากสำหรับการวินิจฉัยโรคให้ถูกต้อง ผู้ป่วยบางรายได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ แต่เมื่อผ่าตัดเข้าไปก็พบว่าไส้ติ่งไม่มีการอักเสบ ผู้ป่วยบางรายแม้จะไปพบแพทย์แต่ก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอื่น จนกระทั่งไส้ติ่งแตกแล้วจึงได้รับการรักษาวินิจฉัยที่ถูกต้อง เด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ขวบเกือบทุกราย มักจะวินิจฉัยโรคนี้ได้หลังจากการแตกของไส้ติ่งแล้ว ในเด็กเล็กและผู้ป่วยสูงอายุพบว่าอาจเกิดปัญหารุนแรง ถ้าได้รับการวินิจฉัยและรักษาโรคล่าช้าเนื่องจากภูมิต้านทานต่ำ โดยมีควรระมัดระวังดังนี้

อาการและข้อปฎิบัติตัวก่อนมาพบแพทย์ในกรณีที่สงสัยเป็นไส้ติ่งอักเสบ

1.ไส้ติ่งอักเสบทำให้ปวดท้อง อาการปวดอาจเป็น ดังนี้

  • อาจเริ่มปวดบริเวณรอบ ๆ สะดือใน 3-6 ชม.แรก แล้วย้ายลงไปที่ท้องน้อยด้านขวา แต่บางคนอาจเริ่มปวดที่ท้องน้อยด้านขวาก็เป็นได้
  • เมื่อเวลาผ่านไปมักปวดมากขึ้น
  • อาจรู้สึกปวดมากขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย หายใจลึก ๆ ถูกสัมผัส และเมื่อไอหรือจาม
  • ถ้าไส้ติ่งแตกอาจปวดไปทั่วทั้งท้อง
  • ผู้ป่วยอาจมีอาการอื่น ๆ เช่น คลื่นไส้และอาเจียน เบื่ออาหาร มีไข้และหนาวสั่น ท้องผูก ท้องเสีย ไม่สามารถผายลมได้ และท้องบวม

2.ไส้ติ่งอักเสบอาจมีอาการคล้ายโรคอื่น ๆ และผู้ป่วยแต่ละคนอาจมีอาการแตกต่างกันไป ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์เสมอ เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

3.ประเด็นสำคัญที่ควรทราบคือ ห้ามผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบใช้ยาถ่ายหรือสวนทวาร เพื่อบรรเทาอาการท้องผูกเป็นอันขาด เนื่องจากอาจทำให้ไส้ติ่งแตกได้ และไม่ควรรับประทานยาแก้ปวด เพราะฤทธิ์ยาอาจทำให้บังอาการ ของโรคได้

วิธีการรักษา 

  • ผ่าตัดแบบเปิด คือการผ่าตัดเปิดหน้าท้องบริเวณท้องน้อยด้านขวา เป็นการผ่าตัดแบบมาตรฐาน
  • ผ่าตัดแบบผ่านกล้อง ข้อดีคือ สามารถเห็นอวัยวะภายในได้ชัดเจนและมุมมองกว้างกว่าวิธีผ่าตัดแบบเปิด นอกจากนี้อัตราการติดเชื้อหลังการผ่าตัดน้อยกว่าวิธีการผ่าตัดแบบเปิด