ผนังกั้นจมูกคด (Deviated Septum) สาเหตุ อาการ การวินิจฉัย และวิธีรักษาที่ควรรู้

“จมูกคด” หรือ ผนังกั้นจมูกคด คือภาวะที่ผนังกั้นระหว่างรูจมูกเบี้ยว/เอียง ทำให้รูจมูกมีความกว้างไม่เท่ากัน บางรายไม่มีอาการ แต่หลายคนมีอาการคัดจมูก หายใจไม่สะดวก นอนกรน หรือเป็นไซนัสอักเสบบ่อย จนกระทบคุณภาพชีวิต การรักษาเริ่มจากยาพ่น/ล้างจมูก และในคนที่ยังมีอาการหลังจากใช้ยาแล้ว หรือมีความคดมากอาจพิจารณาผ่าตัดแก้ผนังกั้นจมูก (Septoplasty)

 

ผนังกั้นจมูกคดคืออะไร? ผนังกั้นจมูก (Nasal septum) คือผนังกระดูกและกระดูกอ่อนที่แบ่งโพรงจมูกซ้าย–ขวา ภาวะผนังกั้นจมูกคด (Deviated septum) หมายถึงผนังนี้เอียง/เบี้ยว ทำให้รูจมูกหนึ่งแคบกว่าอีกข้าง อากาศจึงไหลผ่านไม่เท่ากัน

 

พบได้บ่อยจาก

  • โครงสร้างตั้งแต่กำเนิด
  • การกระแทก/อุบัติเหตุบริเวณจมูก
  • การเจริญเติบโตของใบหน้าที่ไม่สมดุล

 

อาการของจมูกคดที่พบบ่อย

  • คัดจมูกข้างใดข้างหนึ่งเรื้อรัง
  • หายใจทางจมูกติดขัด โดยเฉพาะตอนนอน
  • นอนกรน หรือคุณภาพการนอนลดลง
  • น้ำมูกไหล/คอแห้ง จากการหายใจปาก
  • ปวดศีรษะ/แน่นหน้า โดยเฉพาะร่วมกับไซนัสอักเสบ
  • เลือดกำเดาไหลเป็นๆ หายๆ (จากเยื่อบุแห้ง)
  • อาจได้กลิ่นลดลง

หมายเหตุ: บางคน ไม่มีอาการ และไม่จำเป็นต้องรักษา

 

ปัจจัยเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อน

  • ประวัติอุบัติเหตุจมูก กีฬา ปะทะ
  • โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ร่วมด้วยทำให้คัดหนักขึ้น
  • เทอร์บิเนตโต (เยื่อบุโพรงจมูกบวม/กระดูกข้างโพรงจมูกโต) ทำให้แคบยิ่งขึ้น

ภาวะแทรกซ้อนที่พบร่วมได้ ไซนัสอักเสบบ่อย, นอนกรน, คุณภาพการนอนลดลง และปวดศีรษะ จากการระบายอากาศ/น้ำมูกไม่ดี

 

ควรพบแพทย์เมื่อไหร่?

  • คัดจมูกข้างใดข้างหนึ่งนานเกิน 3–4 สัปดาห์ ซึ่งควรได้รับการตรวจหาสาเหตุว่ามาจากผนังกั้นจมูกคด หรือว่ามีก้อนเนื้อหรือสิ่งแปลกปลอมอุดตัน
  • หายใจลำบาก นอนกรนมาก/สงสัยหยุดหายใจขณะหลับ
  • เป็นไซนัสอักเสบข้างเดิมซ้ำๆ
  • เลือดกำเดาไหลบ่อย หรือปวดแน่นหน้าเรื้อรัง
  • ใช้ยารักษาเบื้องต้นแล้วไม่ดีขึ้น

 

การวินิจฉัย

  • ซักประวัติและตรวจร่างกาย อาการคัดจมูกข้างเดียว
  • ส่องกล้องโพรงจมูก (Nasal endoscopy) ดูตำแหน่งและความรุนแรงของความคด รวมถึงภาวะอื่น เช่น โพลิป, เยื่อบุบวม
  • เอกซเรย์คอมพิวเตอร์โพรงไซนัส (CT paranasal sinus) เฉพาะรายจำเป็น เพื่อประเมินร่วมกับไซนัสอักเสบ/ผ่าตัด
  • อาจตรวจ ภูมิแพ้ ถ้าสงสัยโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ร่วม

 

แนวทางรักษา “จมูกคด”

1. ไม่ผ่าตัด (เหมาะกับอาการไม่มาก)

  • ยาพ่นสเตียรอยด์ในจมูกตามคำแนะนำแพทย์ ลดอักเสบและบวมของเยื่อบุในกรณีที่มีเยื่อบุจมูกบวมร่วมด้วย
  • ยาต้านฮิสตามีน/ยาลดคัดจมูกตามคำแนะนำแพทย์ หลีกเลี่ยงสเปรย์ลดคัดจมูกเกิน 3–5 วัน เพราะเสี่ยง “คัดจมูกเรื้อรังจากการใช้ยาผิด”
  • ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ช่วยลดน้ำมูก/สิ่งระคายเคือง
  • คุมปัจจัยกระตุ้นภูมิแพ้: ฝุ่น ควัน สัตว์เลี้ยง

วิธีเหล่านี้ ไม่ทำให้ผนังกั้นตรงขึ้น แต่ช่วยบรรเทาอาการจากเยื่อบุบวมได้

 

2. การผ่าตัดแก้ผนังกั้นจมูกคด (Septoplasty) โดยจะพิจารณาทำเมื่อ

  • อาการคัดจมูกมาก กระทบชีวิตประจำวัน
  • มีปัญหาด้านการนอน เช่น นอนกรน
  • เป็นไซนาอักเสบซ้ำๆ ในข้างเดียวกับที่มีผนังก้นจมูกคด
  • รักษาแบบประคับประคองไม่ได้ผล

 

การผ่าตัด

  • มักทำแบบแผลซ่อนในรูจมูก (ไม่มีรอยแผลภายนอก)
  • ใช้ยาสลบ ใช้เวลาโดยประมาณ 1-2 ชั่วโมง (แตกต่างตามเคส)
  • บางรายทำร่วมกับลดขนาดเทอร์บิเนต หรือ Functional rhinoplasty เพื่อเพิ่มการไหลเวียนอากาศ
  • โดยทั่วไปกลับบ้านได้ในวันถัดไป
  • การฟื้นตัว: คัดจมูกเล็กน้อย 1–2 สัปดาห์ งดออกกำลังกายและยกของหนัก ~2 สัปดาห์
  • ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: หายใจโล่งขึ้น ลดคัดจมูก/นอนกรนในรายที่เกิดจากการอุดกั้นเชิงโครงสร้าง

ความเสี่ยงที่ควรทราบ (พบไม่บ่อย) เลือดออก ติดเชื้อ ผนังกั้นทะลุ ชา/รู้สึกแปลกบริเวณปลายจมูก การคงอยู่ของอาการบางส่วน จำเป็นต้องติดตามผลตามนัด

 

ดูแลตัวเองหลังผ่าตัด (Care tips)

  • นอนยกหัวสูง 2–3 คืนแรก
  • เลี่ยงสั่งน้ำมูกแรง/จามโดยอ้าปากช่วย ลดแรงดันในจมูก
  • ใช้ยาและสเปรย์น้ำเกลือ ตามแพทย์สั่ง รักษาความชุ่มชื้นเยื่อบุ
  • งดออกกำลังหนัก/ยกของหนัก/ว่ายน้ำ ตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด
  • มาพบแพทย์เพื่อนัดทำความสะอาดโพรงจมูก/ประเมินการหาย

 

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “จมูกคด”

  • จมูกคดหายเองได้ไหม? – โครงสร้างที่คดมักไม่กลับมาตรงเอง แต่ อาการ ดีขึ้นได้ด้วยยาพ่น/การดูแลเยื่อบุ
  • ผ่าตัด = เพื่อความสวย – Septoplasty มีเป้าหมายเพื่อ การหายใจ; หากต้องการปรับรูปทรง อาจทำ rhinoplasty ควบคู่ตามความเหมาะสม
  • นอนกรนหาย 100% หลังผ่าตัด” – ถ้านอนกรนมีหลายปัจจัย (เช่น ลิ้นคอ/น้ำหนักตัว) ผลลัพธ์อาจดีขึ้นแต่ไม่เสมอไป ต้องประเมินแบบองค์รวม

 

การป้องกันและการดูแลระยะยาว

  • คุมภูมิแพ้ให้ดี ลดบวมเยื่อบุที่ทำให้โพรงแคบ
  • หลีกเลี่ยงการกระแทกใบหน้าขณะเล่นกีฬา (ใส่อุปกรณ์ป้องกัน)
  • รักษาสุขอนามัยโพรงจมูกด้วย น้ำเกลือล้างจมูก
  • ควบคุมน้ำหนัก ลดความเสี่ยง นอนกรน/หยุดหายใจขณะหลับ


คำถามที่พบบ่อย

 

Q1: จมูกคดตรวจเองได้ไหม?

สังเกตได้ว่า คัดจมูกข้างเดิม หรือหายใจไม่สะดวกเมื่อปิดรูจมูกอีกข้าง แต่การยืนยันต้องอาศัย ส่องกล้องโพรงจมูก โดยแพทย์หูคอจมูก (ENT) เพื่อประเมินแยกว่าสาเหตุของการคัดจมูกเป็นเพราะผนังกั้นจมูกคดจริงๆ

 

Q2: จมูกคดจำเป็นต้องผ่าตัดทุกรายไหม?

ไม่จำเป็น ถ้าอาการเล็กน้อยใช้ ยาพ่นสเตียรอยด์/ล้างจมูก อาจพอ แต่ถ้าคุณภาพชีวิตแย่ลง ควรปรึกษา Septoplasty

 

Q3: ผ่าตัดแก้จมูกคดเจ็บไหม ฟื้นตัวกี่วัน?

ระหว่างผ่าตัดใช้ยาสลบ หลังผ่าตัดจะตึงๆ/คัดจมูก 1–2 สัปดาห์ โดยมากทำงานเบาได้ในไม่กี่วัน (แพทย์จะแนะนำเป็นรายบุคคล)

 

Q4: นอนกรนจะหายไหมหลังผ่าตัด?

ถ้าต้นเหตุหลักคือการอุดกั้นจาก ผนังกั้นคด/เทอร์บิเนตโต มักดีขึ้น แต่ถ้ามีปัจจัยอื่นร่วม อาจต้องรักษาเพิ่มเติม

 

Q5: ผ่าตัดแก้จมูกคดพร้อมเสริมจมูกได้หรือไม่?

ทำร่วมกันได้ในบางราย (Functional + Cosmetic) ต้องประเมินร่วมกับศัลยแพทย์/แพทย์ ENT

 

Q6: เด็กเป็นจมูกคดได้ไหม?

พบได้ เด็กหลายคนยังไม่มีอาการชัด จำเป็นต้องประเมินความจำเป็นในการรักษาตามวัยและอาการ

 

สนับสนุนข้อมูลโดย: พญ.ทิพย์ญาดา ปภัสสรศิริ แพทย์เฉพาะทางนาสิกวิทยาและภูมิแพ้