วัคซีนป้องกันไวรัส RSV เกราะป้องกันลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในตั้งครรภ์

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไวรัส RSV (Abrysvo) สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์  เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์ และยังเป็นการส่งต่อภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย โดยลดความเสี่ยงติดเชื้อ RSV ของทารกได้ 81.8% ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง และลดความรุนแรงของโรค ให้แก่ทารกในครรภ์ จนถึงอายุ 6 เดือนหลังคลอด  

 

วัคซีน RSV มีข้อดีอย่างไร

  • สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 24 - 36 สัปดาห์

  • ป้องกันการติดเชื้อ RSV และภาวะแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์

  • ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ RSV หลังคลอด

  • ลดความเสี่ยงติดเชื้อ RSV ของทารกได้ 81.8%

  • ส่งต่อภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย ตั้งแต่ในครรภ์ จนถึง 6 เดือนหลังคลอด

  • ป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ และลดความรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัส RSV

  • ลดอัตราในการเข้ารักษาในโรงพยาบาลสำหรับทารกที่ติดเชื้อ RSV

 

รู้จักกับไวรัส RSV RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง สามารถเกิดการติดเชื้อได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ส่วนมากแล้วมักเกิดในเด็กเล็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 3 ปี  และหญิงตั้งครรภ์ หากติดเชื้อจะส่งผลกระทบต่อเด็กทารกในครรภ์  โดยเฉพาะเด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือมีโรคประจำตัวมักมีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ RSV  สำหรับในประเทศไทยอาจพบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝนหรือช่วงปลายฝนต้นหนาว

 

การติดต่อของ RSV การติดต่อของเชื้อ RSV นี้สามารถติดต่อผ่านสารคัดหลั่งต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น น้ำมูก น้ำลาย ละอองจากการไอ จาม โดยเฉพาะการติดต่อจากการสัมผัส ซึ่งหากเด็กได้รับเชื้อ ระยะฟักตัวของโรคจะอยู่ที่ประมาณ 5 วัน  


อาการแสดง

1. ในช่วง 2 – 4 วันแรกมักมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล

2. เมื่อการดำเนินโรคมีมากขึ้นส่งผลให้ทางเดินหายใจส่วนล่าง มีการอักเสบตามมา

  • ทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ

  • มีเสมหะในลำคอมาก

  • โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ

  • อาการรุนแรง เช่น ไข้สูง ไอแรง หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงครืดคราด

 

 3. อาการรุนแรงที่ต้องพึงระวัง

  • มีไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส

  • ไอ จนอาเจียน

  • หายใจเร็วหอบจนชายโครงหรืออกบุ๋ม

  • หายใจออกลำบากหรือหายใจมีเสียงวี้ด (Wheezing)

  • รับประทานอาหารหรือนมได้น้อย ซึมลง ปากซีดเขียว

  • ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

ใครบ้างที่ควรฉีดวัคซีน RSV? วัคซีน RSV นั้นมีความเหมาะสมสำหรับกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อไวรัส RSV โดยเฉพาะในกลุ่มต่อไปนี้

  • คุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วง 24-36 สัปดาห์ หรือควรฉีดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนคลอด โดยฉีดครั้งเดียว เพื่อป้องกันการติดเชื้อ RSV ในทารกแรกเกิด โดยการถ่ายโอนแอนติบอดีจากคุณแม่ไปยังทารกผ่านรก ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับทารกจนถึงอายุ 6 เดือนหลังคลอด

  • ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีโรคเรื้อรังในระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ สามารถรับวัคซีน RSV (Arexvy) สอบถามรายละเอียดได้ที่โรงพยาบาล

 

การดูแลสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส RSV สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคในทารกแรกเกิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่ช่วงแรกเกิด ก่อนคุณแม่เข้ารับวัคซีนควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสม เพื่อเป็นแนวทางที่สามารถช่วยปกป้องทั้งคุณแม่และทารกในช่วงเวลาที่เปราะบางนี้ได้

 

คลิก > วัคซีนป้องกันไวรัส RSV (Abrysvo) สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ 32-36 สัปดาห์