ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขั้นวิกฤติ (DKA): อันตรายที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องระวัง

"กระหายน้ำผิดปกติ ปากแห้ง หายใจหอบ... อาจเป็นสัญญาณของภาวะ DKA ที่อันตรายถึงชีวิต!" ภาวะเลือดเป็นกรดจากเบาหวาน หรือที่เรียกว่า ภาวะคีโตอะซิโดซิสจากเบาหวาน (Diabetic Ketoacidosis - DKA) เป็นภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากจนส่งผลให้เกิดภาวะกรดคีโตนในเลือด ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 1 และบางกรณีในผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

สาเหตุและอาการ DKA เกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดอินซูลินอย่างรุนแรง ทำให้เซลล์ไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ ส่งผลให้ร่างกายต้องสลายไขมันเป็นพลังงานแทน ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้เกิดสารคีโตนสะสมในเลือด เมื่อระดับคีโตนสูงเกินไป เลือดจะกลายเป็นกรด ทำให้เกิดอาการรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้


อาการของ DKA มักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน อาการที่พบบ่อย ได้แก่ กระหายน้ำและปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลียอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หายใจลึกและเร็ว มีกลิ่นผลไม้เปรี้ยวออกจากปาก (กลิ่นอะซิโตน) และอาจมีอาการสับสน หรือหมดสติในกรณีที่รุนแรง หากไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะช็อกและเสียชีวิตได้

 

วิธีป้องกัน การป้องกัน DKA เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน โดยต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างใกล้ชิด ผู้ป่วยควรรับประทานยาอินซูลินหรือยารักษาเบาหวานตามที่แพทย์แนะนำ หมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ และตรวจหาระดับคีโตนในปัสสาวะหรือเลือดหากรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติ


การดูแลตนเองเมื่อป่วยก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการติดเชื้อหรือภาวะเครียดทางร่างกายสามารถกระตุ้นให้เกิด DKA ได้ ผู้ป่วยควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ หลีกเลี่ยงการข้ามมื้ออาหาร และรีบไปพบแพทย์หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงต่อเนื่องหรือมีอาการที่บ่งบอกถึง DKA

 

เหตุใดจึงต้องไปโรงพยาบาลทันที DKA เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากมีอาการที่เข้าข่าย DKA ควรไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด การรักษาภาวะนี้ต้องอาศัยการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำ และการให้อินซูลินทางหลอดเลือดดำเพื่อลดระดับน้ำตาลและคีโตนในเลือด นอกจากนี้ แพทย์จะเฝ้าติดตามระดับอิเล็กโทรไลต์ เช่น โพแทสเซียม และให้การรักษาเพิ่มเติมตามความจำเป็น

 

หากปล่อยไว้โดยไม่รักษาภาวะผิดปกตินี้ อาจทำให้เกิดภาวะไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ สมองบวม และอาจนำไปสู่ภาวะโคม่าได้ ดังนั้น การเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุดเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันผลกระทบที่ร้ายแรง หากมีอาการที่น่าสงสัยควรไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือติดต่อโรงพยาบาลนวเวช เบอร์ 1507 ทันทีเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสมและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น