ป้องกันโรคงูสวัด เพิ่มภูมิคุ้มกันด้วย “วัคซีนชนิดใหม่” ประสิทธิภาพสูงถึง 97%
วัคซีนป้องกันงูสวัด ชนิดใหม่ (Shingrix) เป็นวัคซีนเชื้อตาย โดยการใช้โปรตีนเฉพาะของไวรัสที่เรียกว่า ไกลโคโปรตีนอี เป็นตัวกระตุ้นการสร้างภูมิต้านทาน
ประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ชนิดใหม่
- ป้องกันโรคงูสวัด 97% ในช่วงอายุ 50 -69 ปี
- ป้องกันโรคงูสวัด 68-91% ในช่วงอายุ 70 ปีขึ้นไป
- ป้องกันอาการปวดเส้นประสาท (PHN) 91% ในผู้ใหญ่อายุ > 50 ปี
- ภายหลังการฉีดวัคซีน 7 ปี เมื่อติดตามพบว่า ระดับภูมิต้านทานยังสูงในการป้องกัน
คำแนะนำการฉีดวัคซีน
- สำหรับผู้ใหญ่ อายุ 50 ปีขึ้นไป ให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน 2 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน
- สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคงูสวัดมากกว่าปกติ เช่น ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันมีปัญหา ผู้กำลังรับใช้ยาสเตียรอยด์ และผู้ที่รับการรักษาด้วยรังสีวิทยาหรือเคมีบำบัด เพราะกลุ่มคนเหล่านี้จะมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่าคนปกติ จึงทำให้เสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป ฉีดเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน 2 เข็ม ห่างกัน 1-2 เดือน
- วัคซีนป้องกันงูสวัด ชนิดใหม่ ไม่มีไวรัสที่มีชีวิต จึงปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องหรืออ่อนแอ
- สามารถฉีดวัคซีนงูสวัดได้ แม้ว่าเคยหรือไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน ไม่จำเป็นต้องตรวจว่ามีภูมิคุ้มกันโรค (varicella IgG)
- ในกรณีขณะที่เป็นงูสวัด ต้องรักษาให้อาการหายดีก่อนจึงฉีดวัคซีนได้
- หญิงตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนนี้
สนับสนุนข้อมูลโดย : พญ.พวงรัตน์ ตั้งธิติกุล
อายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ
คลิก > วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดชนิดใหม่ 2 เข็ม