1. รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแหล่งของแคลเซียม (Calcium) และฟอสฟอรัส (Phosphorus) เช่น เต้าหู้ งา อาหารทะเล ไข่ นม และผักใบเขียว เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน

2. รับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหาร เช่น ผัก และผลไม้ โฮลวีต ธัญพืชไม่ขัดสี เนื่องจากมีใยอาหารที่จะช่วยลดการเกิดฟันผุ และคราบหินปูน

3. รับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินซี (Vitamin C) ผัก และผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว เพื่อช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อ และรักษาโครงสร้างของเหงือกให้แข็งแรง ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน รวมทั้งส่วนอื่น ๆ ในช่องปาก

4. รับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินเอ (Vitamin A) พบมากในไข่แดง ตับ นม และพืชกลุ่มที่มีสารแคโรทีนอยด์ ได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม ผลไม้สีเหลือง สีส้ม เช่น ตำลึง ผักบุ้ง แครอท ฟักทอง มะละกอสุก เป็นต้น ช่วยสร้างเมือกให้เยื่อบุผิวในช่องปาก ทำให้การไหลเวียนของน้ำลายดีขึ้น บำรุงเหงือกให้แข็งแรง และสมานแผลในช่องปากให้หายไวขึ้น

5. น้ำเปล่า ช่วยลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในช่องปาก

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

1. อาหารจำพวกน้ำตาล น้ำหวาน เช่น ลูกอม ลูกกวาด เยลลี่ น้ำหวาน เป็นต้น เนื่องจากจุลินทรีย์ที่อยู่ในช่องปากจะย่อยอาหารจำพวกแป้ง และน้ำตาลให้กลายเป็นกรดไปกัดกร่อนผิวฟัน และเกิดเป็นฟันผุได้

2. อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด และมีกรดสูง เช่น อาหารหมักดอง น้ำอัดลม เป็นต้น เพราะจะทำให้ฟันกร่อน และเกิดอาการเสียวฟันตามมา

3. อาหารที่เนื้อสัมผัสแข็งเกินไป เช่น กระดูก น้ำแข็ง เป็นต้น เพราะอาจทำให้ฟันร้าว ฟันบิ่น และแตกหักได้