โรคหัวใจขาดเลือดเกิดจากอะไร? สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

โรคหัวใจขาดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก โดยในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจปีละประมาณ 2 หมื่นคน โรคหัวใจขาดเลือดเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

 

ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้

 

  • อายุ : ความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุกๆ 10 ปีหลังจากอายุ 55 ปี

  • เพศ : ผู้ชายมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจมากกว่าผู้หญิงในช่วงก่อนวัยหมดประจำเดือน โดยผู้ชายมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงในวัยเดียวกัน

  • พันธุกรรม : หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ จะทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า

ปัจจัยที่ควบคุมได้

  • โรคประจำตัว : โรคประจำตัวบางชนิด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคไตเรื้อรัง โรคอ้วน เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

  • พฤติกรรมสุขภาพ : พฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ดี เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การสูบุหรี่ การดื่มสุรา การไม่ออกกำลังกาย เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

 

10 อาการ ที่พบได้บ่อย ได้แก่

 

  • เหนื่อยง่าย โดยเฉพาะเวลาออกแรงหรือเดินเร็ว

  • เจ็บหน้าอกแบบจุกแน่นหรือบีบ

  • หายใจลำบาก

  • คลื่นไส้ อาเจียน ร่วมกับอาการเหนื่อย หรือเจ็บหน้าอก

  • เหงื่อออก ร่วมกับอาการเหนื่อย หรือเจ็บหน้าอก

  • หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ

  • ใจสั่น

  • มือเท้าเย็น

  • อ่อนเพลีย

  • เป็นลม

 

หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจหมายถึงอาการหัวใจที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

การป้องกันโรคหัวใจ

 

การป้องกันโรคหัวใจสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้ดีขึ้น เช่น

 

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ไขมันดี และโปรตีนจากพืชหรือสัตว์ไม่ติดมัน

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์

  • งดสูบบุหรี่

  • งดดื่มสุรา

  • ควบคุมน้ำหนักให้เป็นปกติ

  • ควบคุมระดับไขมันในเลือด น้ำตาลในเลือด และความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

 

การวินิจฉัยโรคหัวใจ

 

การวินิจฉัยโรคหัวใจสามารถทำได้โดยการตรวจร่างกาย การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจอัลตร้าซาวด์หัวใจ การตรวจเดินสายพาน (EST)  และการตรวจอื่นๆ ตามความจำเป็น

 

การรักษาโรคหัวใจ

 

การรักษาโรคหัวใจขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค โดยการรักษาอาจรวมถึงการใช้ยา การผ่าตัด หรือการทำหัตถการต่างๆ

 

การป้องกันโรคหัวใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะโรคหัวใจสามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้ดีขึ้น ทุกคนสามารถเริ่มต้นดูแลสุขภาพของตนเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและมีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพ