สัญญาณเตือน...ลูกอาจมีปัญหาโรคซน สมาธิสั้น

โรคซน สมาธิสั้น หรือ Attention Deficit Hyperactivity Disorder ย่อว่า ADHD เป็นภาวะที่เกิดจากการทำงานบกพร่องของสมองส่วนหน้า ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมสมาธิและพฤติกรรม ทำให้เด็กมีพฤติกรรมซนมาก อยู่ไม่นิ่ง นั่งติดที่ไม่ได้นาน วอกแวกง่าย ขาดสมาธิจดจ่อ และทำอะไรไม่รอบคอบ ทำให้เด็กเกิดปัญหาทั้งที่บ้าน ที่โรงเรียน รวมถึงการเข้าสังคม การปรับตัวเข้ากับเพื่อน   สัญญาณเตือนอาการโรคซน สมาธิสั้นในเด็ก เด็กจะมีอาการมากกว่า 1 ข้อ ดังต่อไปนี้ 

 

  • ซน- เคลื่อนไหวตลอด นั่งไม่ติดที่่ หรือทำอะไรเงียบๆไม่ค่อยได้
     
  • หุนหันพลันแล่น – วู่วาม รอไม่ค่อยได้ ทำอะไรไม่รอบคอบ
     
  • ขาดสมาธิ –วอกแวกง่าย เหม่อลอย ขี้ลืม ทำงานช้าหรือทำไม่เสร็จ

  

อาการเหล่านี้เริ่มสังเกตเห็นได้ตั้งแต่เด็กอายุ 4 ขวบและเป็นมาเรื่อยๆ อาการจะแสดงออกทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนและส่งผลให้เกิดปัญหาต่อตัวเด็ก ต้องมีอาการเหล่านี้มานาน 6 เดือน และมีอาการก่อนอายุ 12 ปี   

 

 

 

โรคซน สมาธิสั้น รักษาอย่างไร การรักษาหลักมี 3 ข้อ คือ 

 

1. การใช้ยาเพื่อปรับสมดุลย์ของการทำงานของสมองส่วนหน้าให้เด็กมีสมาธิ และควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น 
 

2. การปรับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมที่บ้าน เช่น จัดตารางชีวิตประจำวันของเด็กให้เป็นเวลาแน่นอน บ้านมีกฎเกณฑ์และใช้วินัยเชิงบวก บรรยากาศที่บ้านมีความสงบ มีความรัก ความอบอุ่น และความเข้าใจให้กัน 
 

3. การปรับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมที่โรงเรียน เนื่องจากเด็กซน สมาธิสั้นจะมีปัญหาที่โรงเรียนด้วย คุณครูจึงส่วนร่วมในการช่วยเหลือเด็ก โดยการทำความเข้าใจปัญหาและให้โอกาสเด็กในการปรับตัวด้านการเรียนและการเข้าสังคม เช่น จัดเวลาเพิ่มเติมในการสอนเด็กหรือให้เวลาเพิ่มในการทำงาน ให้เด็กนั่งด้านหน้า ไกลจากหน้าต่างหรือประตู ใช้วินัยเชิงบวกในการสอนเด็กให้ทำตาม   

 

ถ้าไม่รักษาเด็กจะเป็นอย่างไร หากปล่อยไว้ไม่รักษา เด็กซน สมาธิสั้น จะมีปัญหาพฤติกรรมและอารมณ์ตามมาได้ เช่น ไม่ใส่ใจการเรียน การติดเล่นเกมหรือติดเล่นมือถือ เด็กดื้อ ต่อต้าน ไม่เชื่อฟัง หรือมีอารมณ์กังวล ซึมเศร้า มองว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่ดี เป็นเด็กมีปัญหา และขาดความมั่นใจในตัวเอง   

 

ถ้าสงสัยว่าลูกอาจเป็นโรคซน สมาธิสั้น ควรทำอย่างไร ควรพาลูกมาปรึกษาแพทย์เพื่อทำการซักประวัติและประเมินอาการโดยละเอียด ร่วมมือกับแพทย์และทางโรงเรียนเพื่อให้เด็กได้รับการดูแลที่เหมาะสมต่อไป   

 

สนับสนุนข้อมูลโดย : พญ.ดวงรัตน์ วังเกล็ดแก้ว 

กุมารแพทย์ที่ปรึกษา ศูนย์สุขภาพเด็ก  โรงพยาบาลนวเวช กุมารแพทย์ 

 

คลิก > ปรึกษาแพทย์ : เทคนิคการเลี้ยงลูกให้มีความฉลาดทางอารมณ์