โรคเยื่อบุตาอักเสบในเด็ก

เข้าหน้าฝนแล้ว...หากเด็กๆมีอาการตาแดง ตาบวม มีขี้ตาแฉะ คันตา ขยี้ตาบ่อยๆ อย่าวางใจ เพราะนี่คืออาการเริ่มแรกของโรคเยื่อบุตาอักเสบ หรือโรคตาแดง   

 

โรคเยื่อบุตาอักเสบ หรือ โรคตาแดง (conjunctivitis) คือ ภาวะที่เยื่อบุตาเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งเยื่อบุตาเป็นเยื่อเมือกใสที่คลุมตาขาวและบุด้านในของเปลือกตา  ติดต่อกันได้ง่ายผ่านการสัมผัสโดยตรง (contact) ผ่านทางขี้ตา น้ำตา หรือมือสัมผัสโดยตรงได้   

 

สาเหตุของโรคเยื่อบุตาอักเสบ แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ 

 

1. ชนิดติดเชื้อ ทั้งจากเชื้อไวรัส เช่น เชื้อไวรัสอะดีโน (Adenovirus) ซึ่งทำให้เกิดอาการเจ็บคอและมีไข้สูงร่วมด้วย ทั้งจากเชื้อแบคทีเรียบาง เช่น สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) และสเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus Pneumoniae) ซึ่งทำให้มีอาการไข้ ไอน้ำมูก เจ็บคอ ไปจนถึงหายใจเหนื่อยร่วมด้วยได้ ติดต่อจากการสัมผัส โดยเฉพาะเด็กเล็กที่เริ่มหยิบจับสิ่งของต่างๆ รอบตัวได้เองเชื้ออาจติดมากับมือ แล้วมาจับหน้า เอามือเข้าปากหรือเอามือขยี้ตาทำให้ได้รับเชื้อ เป็นสาเหตุที่เด็กเป็นโรคตาแดงง่ายและเป็นมากกว่าผู้ใหญ่ 

 

2. ชนิดไม่ติดเชื้อ เกิดจากสิ่งแปลกปลอม ฝุ่นละออง ทำให้เกิดการระคายเคือง หรือจากโรคภูมิแพ้ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ หญ้า ไรฝุ่นจากสัตว์เลี้ยง สุนัข แมว ไปจนถึงฝุ่นpm 2.5 ได้ นอกจากนี้เยื่อบุตาอักเสบอาจเกิดจากอุบัติเหตุ หรือจากการแพ้ยาได้เช่นกัน  

 

การจำแนกอาการของโรคเยื่อบุตาอักเสบ

 

การติดเชื้อไวรัส การติดเชื้อแบคทีเรีย จากภูมิแพ้

อาการตาแดง เคืองตา มีน้ำตาไหล

ต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโต

อาจมีอาการตาบวม หรือปวดตาเล็กน้อย

อาการตาแดงเข้มมาก มีขี้ตามาก ออกสีเหลืองหรือสีเขียว อาการอักเสบมักจะเกิดขึ้นทั้งสองข้างของตา

อาจมีอาการปวดระบมที่ตาร่วมด้วย

คันตามาก น้ำตาไหล หรือ ตาบวม กะพริบตาบ่อยๆ

อาจมีผื่นแดง คัน รอบๆดวงตา หรือมืตุ่มเล็กๆขึ้นบริเวณเยื่อบุตา

มักเป็นทั้งสองข้างพร้อมกัน

 

ไข้ อาการหวัด

อาการติดเชื้อเกี่ยวกับการหายใจส่วนต้น

อาจมีไข้ ไอ

อาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง

เม็ดหนองขึ้นในตา(ตากุ้งยิง)

มักพบร่วมกับ อาการภูมิแพ้จมูกอักเสบด้วย ได้แก่ จาม คันจมูก น้ำมูกไหล คัดจมูก
จะหายเองภายใน 2-3 สัปดาห์ จำเป็นต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ แบบเฉพาะที่ หรือ แบบรับประทานร่วมกัน

ใช้ยาแก้แพ้แบบรับประทาน

ร่วมกับยาหยอดตาแก้แพ้

 

การรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบ

 

1. 1 การรักษาแบบประคับประคอง เพื่อลดอาการปวดระคายเคือง ลดความรุนแรงของอาการโรค เช่น การประคบเย็น เพื่อลดอาการผปวดบวมและระคายเคืองของเปลือกตา ให้รู้สึกสบายตามากขึ้น , ล้างตาด้วยน้ำเกลือ ชนิดเดียวกับที่ใช้ล้างแผล หรือล้างจมูก เพื่อลดอาการระคายเคืองของดวงตาและเยื่อบุตา หรือ ทำความสะอาดตา ถ้าเด็กมีน้ำตาหรือขี้ตาด้วยสำลีชุบน้ำหรือใช้ทิชชูเช็ดเบาๆ เช็ดแล้วทิ้งเลย ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดซ้ำแล้วซ้ำอีก , อาการจากภูมิแพ้ อาจทำให้มีผื่นคันบริเวณรอบดวงตาได้ การทาโลชั่นแก้แพ้ ที่ไม่มีสเตียรอยด์ เพื่อลดอาการที่ผิวหนังรอบดวงตาได้ 

 

1.2 การรักษาสาเหตุของโรค แบบเฉพาะเจาะจง เพื่อรักษาที่สาเหตุของโรค จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัย จากจักษุแพทย์ หรือกุมารแพทย์ เพื่อพิจารณาการใช้ยา เช่น ยาปฏิชีวนะ ทั้งแบบหยอดเฉพาะที่ แบบรับประทาน ไปจนถึงแบบฉีดเข้าเส้นเลือด , ยาลดอาการอักเสบระคายเคือง ทัังแบบหยอดเฉพาะที่ และแบบรับประทาน หากสาเหตุของตาแดง เยื่อบุตาอักเสบเกิดจากภูมิแพ้ มักจะใช้ยาแก้แพ้ ชนิดรับประทาน หรือแบบพ่นจมูก ควบคู่ไปกับการใช้ยาแก้แพ้แบบหยอดเฉพาะที่ ร่วมกับการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุของอาการโรค   

 

วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ สอนให้เด็กล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดการติดเชื้อ อย่าให้เด็กเอามือขยี้ตาในขณะที่มีอาการคันระคายเคืองตา 

ทั้งนี้ ควรหมั่นสังเกตุ หากพบอาการตาแดง ระคายเคืองตาผิดปกติควรพาเด็ก เข้ารับการตรวจวินิจฉัยแยกโรค และรับการรักษาอย่างถูกวิธี เพราะอาการตาแดงอาจเกิดจากการที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าดวงตา หรือมีการบาดเจ็บได้เช่นกัน   

 

สนับสนุนข้อมูลโดย : พญ.สิริรักษ์ กาญจนธีระพงค์  

กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยา 

ศูนย์สุขภาพเด็ก (Children's Health Center) โรงพยาบาลนวเวช