ครรภ์เป็นพิษ เรื่องที่คุณแม่ตั้งครรภ์ ไม่ควรมองข้าม

ครรภ์เป็นพิษ คือ 

 

ภาวะที่มีความดันโลหิตสูงในขณะตั้งครรภ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย อาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ทั้งต่อแม่และลูก   

 

 

 

หากกล่าวถึงความดันโลหิตสูงในขณะตั้งครรภ์ คือ ภาวะที่มีความดันโลหิตมากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่

  • ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง (Chronic Hypertension) คือ เป็นโรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ หรือ ตรวจพบก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์   
  • ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (Gestational Hypertension) คือ ความดันโลหิตสูง มากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท เพียงอย่างเดียว ตรวจพบหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์   
  • ครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia and Eclampsia) คือ ความดันโลหิตสูง มากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท ร่วมกับ โปรตีนรั่วในปัสสาวะ ตรวจพบหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ อาจเกิดอาการรุนแรงจนชัก และ เสียชีวิตได้
  • ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง ร่วมกับ ครรภ์เป็นพิษ (Chronic Hypertension with Superimposed Preeclampsia) โดยความดันโลหิตสูงทุกชนิด อาจพัฒนากลายเป็นครรภ์เป็นพิษรุนแรงได้ และอาจส่งผลต่อชีวิตของแม่และลูกได้   

 

ปัจจัยเสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษ ได้แก่ 

  • เคยมีประวัติครรภ์เป็นพิษในครรภ์ก่อน
  • ความดันโลหิตสูงก่อนการตั้งครรภ์
  • โรคไต
  • โรคเบาหวาน
  • โรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อตัวเอง เช่น SLE, Antiphospholipid syndrome
  • ครรภ์แฝด
  • อ้วน
  • ประวัติครอบครัว มีคนเป็นภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • อายุ มากกว่า 35 ปี

  

ครรภ์เป็นพิษมีอาการอย่างไร 

  • ความดันโลหิตสูง > 140/90 มิลลิเมตรปรอท
  • ปวดหัว
  • ตามัว
  • ปวดท้อง จุกแน่นชายโครงขวา หรือ ใต้ลิ้นปี่
  • บวม ที่ เท้า ขา มือ หน้า
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วผิดปกติ
  • ปัสสาวะเป็นฟอง
  • ตรวจพบโปรตีนรั่วในปัสสาวะ
  • หอบเหนื่อย
  • ชัก
  • รกลอกตัวก่อนกำหนด
  • ทารกโตช้าในครรภ์

  

การประเมินความรุนแรงของครรภ์เป็นพิษ ได้แก่ 

  • ครรภ์เป็นพิษไม่รุนแรง (Preeclampsia without severe feature) คือความดันโลหิตสูง > 140/90 มิลลิเมตรปรอท ไม่มีอาการรุนแรง และไม่มีภาวะแทรกซ้อน
     
  • ครรภ์เป็นพิษรุนแรง (Preeclampsia with severe feature) คือความดันโลหิต > 160/110 มิลลิเมตรปรอท มีอาการรุนแรงต่างๆ ตรวจพบการทำงานของอวัยวะต่างๆ ผิดปกติ เช่น ตับอักเสบ การทำงานของไตลดลง หรือ ไตวาย เม็ดเลือดแดงแตก เกล็ดเลือดต่ำ การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ น้ำท่วมปอด หากมีอาการรุนแรง ชัก หรือหมดสติ ต้องรีบทำการรักษา เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้ทั้งแม่และลูก   
     

การตรวจคัดกรองและการป้องกันครรภ์เป็นพิษ 

การตรวจคัดกรองสามารถใช้การซักประวัติความเสี่ยงๆต่อครรภ์เป็นพิษ การเจาะเลือดประเมินความเสี่ยง อัลตราซาวด์ตรวจเส้นเลือดที่มดลูก และพิจารณาให้ยาแอสไพริน เพื่อป้องกันการเกิดครรภ์เป็นพิษ

 

การดูแลผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงและการรักษาครรภ์เป็นพิษ 

  • ครรภ์เป็นพิษสามารถพยากรณ์การเกิดและป้องกันได้ คุณแม่ไปตรวจครรภ์ตามที่แพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ
     
  • หากมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ควรดูแลรักษากับแพทย์เฉพาะทางสาขานั้นๆ อย่างใกล้ชิด ควบคุมโรคให้อยู่ในภาวะสงบ และปรึกษากับแพทย์ก่อนวางแผนตั้งครรภ์
     
  • สังเกตุอาการของตนเองอยู่เสมอ หากมีอาการที่เสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษ เช่น บวมมาก น้ำหนักขึ้นเร็ว ปวดหัว ตามัว หอบเหนื่อย ให้รีบเข้ามาปรึกษาแพทย์
     
  • หากวินิจฉัย ครรภ์เป็นพิษรุนแรง ต้องทำการรักษาโดยการยุติการตั้งครรภ์ เช่น ผ่าตัดคลอด อย่างเร็วที่สุด โดยแพทย์จะพิจารณาแนวทางในการรักษาจากอายุครรภ์ ณ ขณะวินิจฉัยเป็นหลัก จำเป็นต้องให้ยาป้องกันการชักตั้งแต่ก่อนคลอดจนถึง 24 ชั่วโมงหลังคลอด และให้ยาลดความดันโลหิต
     
  • หากอายุครรภ์ยังก่อนกำหนดมาก ทารกยังไม่สมบูรณ์มากพอ อาจรักษาด้วยการประคับประคอง ควบคุมความดันโลหิต ร่วมกับให้ยากระตุ้นปอดทารก และยุติการตั้งครรภ์เมื่อมีข้อบงชี้
     
  • ร่วมดูแลรักษากับแพทย์เฉพาะทางสาขาอื่นๆ เช่น อายุรแพทย์ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์
     

แม้ว่าภาวะครรภ์เป็นพิษจะไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่การฝากครรภ์ที่ถูกต้อง การตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอ และการดูแลที่เหมาะสมสำหรับหญิงตั้งครรภ์แต่ละคน ก็อาจจะช่วยป้องกัน ลดความเสี่ยง และลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ   

 

สนับสนุนข้อมูลโดย : นายแพทย์ธิติพันธุ์ น่วมศิริ 

สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (MFM)

 

คลิก > โปรแกรมฝากครรภ์เหมาจ่าย