ข้อดีของการตรวจด้วยแมมโมแกรม 3 มิติเปรียบเทียบกับแมมโมแกรมธรรมดา

 

1. คุณภาพสูง คมชัดกว่า เพิ่มความแม่นยำ และความละเอียดสูง คมชัด  ทำให้สามารถระบุตำแหน่งที่มีความผิดปกติของเต้านมได้อย่างชัดเจนขึ้น ลดความคลาดเคลื่อนในการแปลผล 

2. เจ็บน้อยกว่า แผ่นกดเต้านม  ที่โค้งเว้าตามลักษณะของเต้านม  จึงช่วยลดแรงกดทับบีบอัดที่เต้านมทำให้รู้สึกสบายขึ้น  เจ็บน้อยลงหรือไม่เจ็บเลย  พร้อมกันนี้ยังถูกออกแบบและพัฒนาขึ้น  เพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัย โดยไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพเอกซเรย์ผู้รับบริการซ้ำ  ทั้งนี้ต้องขึ้นกับขนาดและคสามหนาแน่นของเนื้อเยื่อเต้านมในแต่ละคนด้วย 

3. เร็วกว่า เมื่อไม่มีการถ่ายซ้ำ ทำให้ระยะเวลาการตรวจลดลง และลดจำนวนครั้งในการรับปริมาณรังสีทำให้ผู้รับบริการ ได้รับปริมาณรังสีที่ไม่มากเกินจำเป็น 

4. ตรวจเจอได้เร็วกว่า ตรวจพบมะเร็งเต้านมได้มากขึ้นและขนาดเล็กลง ทำให้แพทย์สามารถรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก  จึงมีโอกาสรักษาหายขาดได้สูงขึ้น   

 

การแปลผลการตรวจแมมโมแกรมหรืออัลตราซาวน์ เป็นการแผลผลความเสี่ยงที่จะกลายเป็นมะเร็งเต้านม โดยแปลเป็น BI-RADS 1-6 เพื่อง่ายต่อการติดตามและดูแลผู้ป่วยแต่ละกลุ่มของแพทย์  ไม่ใช่ระยะโรค 

1 หมายถึง ไม่พบสิ่งผิดปกติเลยควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมติดตามทุกปี 

2 หมายถึง พบสิ่งผิดปกติ แต่เสี่ยงน้อยที่จะเป็นมะเร็งเต้านมควรตรวจติดตามทุกปี 

3 หมายถึง พบสิ่งผิดปกติ แต่มีความเสี่ยงน้อยกว่า 2% ที่จะเป็นมะเร็งเต้านม ควรตรวจติดตามอย่างใกล้ชิดทุก 6 เดือน 

4 หมายถึง พบสิ่งผิดปกติ มีความน่าสงสัย เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมได้ 3-95% ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยด้วยชิ้นเนื้อเพิ่มเติม 

5 หมายถึง พบสิ่งผิดปกติ มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมค่อนข้างสูง ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยด้วยชิ้นเนื้อเพิ่มเติม 

6 หมายถึง ได้รับการวินิจฉัยชิ้นเนื้อแล้วว่าเป็นมะเร็ง     

 

สนับสนุนข้อมูลโดย พญ.ชุตินันท์ วัชรกุล แพทย์เฉพาะทางด้านรังสีวิทยาวินิจฉัย – ภาพรังสีวินิจฉัยชั้นสูงและรังสีร่วมรักษาของเต้านม 

Advanced Diagnostic Breast Imaging and Intervention โรงพยาบาลนวเวช    

 

คลิก > โปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม