การตรวจอัลตราซาวด์ในหญิงตั้งครรภ์
แม้ว่ายังไม่เห็นหน้าแต่ก็รักและผูกพัน ด้วยวิทยาการในปัจจุบันที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับรู้พัฒนาการของลูกในครรภ์รวมถึงโครงร่างของลูกน้อยคือการตรวจอัลตราซาวด์ แล้วในความเป็นจริงการอัลตราซาวด์สามารถตอบคำถามอะไรได้บ้าง การตรวจในแต่ละช่วงอายุครรภ์แตกต่างกันอย่างไร

ไตรมาสที่ 1 (อายุครรภ์น้อยกว่า 14 สัปดาห์)
การอัลตราซาวด์ในครั้งแรกของการฝากครรภ์ มักเป็นการยืนยันตำแหน่งของการตั้งครรภ์ว่าเป็นการตั้งครรภ์ในมดลูกหรือไม่ นอกจากนี้ยังใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดอายุครรภ์ร่วมกับการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย โดยวัดความยาวของตัวอ่อน (Crown-rump Length) จากภาพอัลตราซาวด์ และการตรวจดูอวัยวะอื่น ๆ ในอุ้งเชิงกรานอย่างมดลูกและรังไข่ประกอบ
หลังจากนั้นประมาณช่วงอายุครรภ์ 10 สัปดาห์-13 สัปดาห์ 6 วัน ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (Maternal Fetal Medicine: MFM) จะตรวจอัลตราซาวด์ร่วมกับการตรวจเลือดเพื่อประเมินความเสี่ยง และคัดกรองโรคดาวน์ซินโดรมความพิการของทารกในครรภ์ ทำนายเพศ และการตรวจคัดกรองโรคครรภ์เป็นพิษ
ไตรมาสที่ 2 (อายุครรภ์ 14-28 สัปดาห์)
ช่วงอายุครรภ์ 18-22 สัปดาห์ เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการประเมินดูความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ โดยสามารถตรวจดูความสมบูรณ์ของอวัยวะต่าง ๆ ได้เกือบทั้งหมด ได้แก่
- กะโหลกศีรษะ และ สมอง
- โครงสร้างใบหน้า ลูกตา เพดานปาก ริมฝีปาก
- ทรวงอก ปอด โครงสร้างของหัวใจ เส้นเลือดหัวใจ และการไหลเวียนของเลือด
- ช่องท้อง กระเพาะอาหาร ลำไส้ ไต กระเพาะปัสสาวะ
- เพศ
- โครงสร้างกระดูก กระดูกสันหลัง กระดูกแขน ขา มือ เท้า นิ้วมือและเท้า
- ปริมาณน้ำคร่ำ
- ประเมินน้ำหนักของทารกในครรภ์
- ตำแหน่งการเกาะของรกและสายสะดือ
ความผิดปกติที่พบบ่อย เช่น ปากแหว่ง เพดานโหว่ สมองผิดปกติ หัวใจพิการ รกเกาะต่ำ หากตรวจพบความผิดปกติแต่กำเนิดในช่วงนี้ แพทย์จะแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม โดยการเจาะน้ำคร่ำหรือสายสะดือทารก เพื่อตรวจดูความผิดปกติของโครโมโซม รวมถึงการได้รับ คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการดูแลระหว่างตั้งครรภ์ การคลอดและหลังคลอด
นอกจากนี้ยังสามารถประเมินความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้ จากการตรวจอัลตรา-ซาวด์ทางช่องคลอด เพื่อวัดความยาวปากมดลูก หากมีภาวะปากมดลูกสั้นหรือปากมดลูกหลวม เพื่อที่จะได้รับการรักษาด้วยยาหรือการเย็บปากมดลูกได้อย่างทันท่วงทีอีกด้วย
ไตรมาสที่ 3 (อายุครรภ์ 28 สัปดาห์จนถึงคลอด)
ในช่วงไตรมาสที่ 3 นั้น ประโยชน์ของการตรวจอัลตราซาวด์ คือการตรวจดูน้ำหนักของทารกในครรภ์เพื่อประเมินน้ำหนักก่อนคลอด ท่าของทารก ปริมาณน้ำคร่ำ และตรวจยืนยันตำแหน่งการเกาะของรกว่ามีรกเกาะต่ำหรือไม่ เพื่อประเมินความเหมาะสมของวิธีการคลอด และตรวจดูความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ที่อาจตรวจพบได้ในช่วงไตรมาสที่ 3
สรุป
แม้ว่าการตรวจอัลตราซาวด์จะสามารถตรวจพบความพิการแต่กำเนิดได้หลายชนิด แต่ความผิดปกติบางอย่างก็ยังไม่สามารถตรวจพบได้จากอัลตราซาวด์ เช่น ความผิดปกติ ที่มีขนาดเล็กมาก สติปัญญา ออทิสติก
โรงพยาบาลนวเวช เราใช้การตรวจอัลตราซาวด์แบบ 2 มิติ ร่วมกับการอัลตราซาวด์ 3 มิติ และ 4 มิติ เพื่อช่วยให้เห็นภาพใบหน้า และโครงสร้างภายนอกของทารกในครรภ์ได้ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ โดยสามารถเก็บภาพและคลิปวิดีโอ เป็นความทรงจำดี ๆ และยังเป็นการสร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่และลูกในครรภ์อีกด้วย
ทั้งนี้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์สามารถติดต่อสอบถาม นัดหมาย หรือปรึกษา เกี่ยวกับการฝากครรภ์และการอัลตราซาวด์กับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลนวเวช เพื่อการดูแลที่ใกล้ชิด
นพ.ธิติพันธุ์ น่วมศิริ
สูติ–นรีแพทย์ เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์
18/12/2020